ต่อจากเที่ยวไร่องุ่น Silver Lake และเขาชีจรรย์ เราก็เข้าพักที่โรงแรม Woodlands Hotel & Resort อยู่พัทยาเหนือ ติดกับโรงแรมดุสิตค่ะ
จากถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้ามาตรงพัทยาเหนือ วิ่งตรงมาเรื่อยๆ จนถึงวงเวียนปลาโลมาหน้าโรงแรมดุสิต เลี้ยวขวาตามวงเวียนไปนิดเดียวก็เห็นโรงแรมแล้วค่ะ ตอนนี้ที่นี่จะมีเป็น Suites ด้วยอยู่บริเวณใกล้ๆกัน ลักษณะจะเป็นสไตล์อพาร์ทเม้นท์กลายๆ สามารถทำอาหารได้ ราคาห้องพักจะแพงกว่า ซึ่งครอบครัวเราจะพักในส่วนของโรงแรมค่ะ
โรงแรมนี้ไม่ติดทะเลนะคะ ไม่ได้ยินเสียงคลื่นแม้แต่น้อย และไม่มีซีวิวด้วย (การ์เด้นวิวทั้งหมด) ถ้าจะเดินไปทะเลก็ไกลพอสมควรค่ะ แต่สงบมากๆ ดังนั้น จึงเหมาะกับคนที่อยากมาพักผ่อนสงบจิตสงบใจโดยไม่เกี่ยงว่าจะต้องเห็นทะเลหรือได้ยินเสียงคลื่นค่ะ
เบเกอรี่เจ้าดังอยู่หน้าโรงแรม ของเค้าอร่อยจริงๆ ถึงจะแพงแต่คุณภาพและปริมาณก็สมราคาเค้าละ (เฉพาะอาหารและเบเกอรี่นะ ส่วนเครื่องดื่มแพงเวอร์มากไปหน่อย น้ำส้มคั้นถ้าจำไม่ผิดแก้วละร้อยกว่าบาท เราว่ากินอาหาร/เบเกอรี่แล้วสั่งมาเฉพาะน้ำเปล่าก็พอ ถ้าอยากกินโค้กหรือน้ำส้มคั้นไว้ไปหาซื้อเอาข้างนอกก็ได้)
เลี้ยวรถเข้าไปจอดตรงนี้ หน้าตาไม่เหมือนทางเข้าหลักของโรงแรมเท่าไหร่เพราะดูเล็กๆ เงียบ และแคบ แต่ก็...ใช่แล้ว...ตรงนี้แหละ
เช็คอินตรงนี้ เราเช็คอินประมาณเกือบเที่ยง ต้องรอทำความสะอาดห้องประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งก็เข้าใจ เลยไปนั่งกินเบเกอรี่หน้าโรงแรมรอ แล้วพอเดินกลับไป ห้องก็ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว
เช็คอินเสร็จ ก็เดินเข้าไปเข้าห้องพักทางนี้
แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนเข้าห้องพัก ขอเถลไถลดูโน่นดูนี่ซักครู่
ขึ้นห้องพักดีกว่า
ระหว่างทางเดินจะผ่านห้องอาหารซึ่งอยู่ริมสระน้ำ ตอนเช้าก็จะมาทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหารนี้แหละค่ะ
แอบพลิกเมนูดูนิดนึงว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง ก็พบว่าที่พอกินได้จะมีแต่เมนูอาหารไทยเน้นขายฝรั่ง (แพงเกินไปสำหรับคนไทยที่คุ้นเคยกับอาหารเหล่านี้ดีอยู่แล้ว) ฉะนั้น ขอผ่านไปขึ้นห้องเลยดีกว่า
ที่นี่คืนวันเสาร์มีบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดริมสระน้ำด้วย บรรยากาศดีพอสมควร ราคาต่อหัวคนละ ๖๐๐กว่าบาท และต้องบวกภาษี ๗%และบริการ ๑๐% ตอนแรกเห็นเขียนในใบโฆษณาเสียหรู ก็เลยว่าจะมานั่งกินซะหน่อย แต่เอาเข้าจริงเจอกองทัพยุงเข้าไปแถมไลน์อาหารจริงที่เห็นไม่ชวนให้อยากกิน (แอบรู้สึกว่าไม่คุ้มกับราคาที่จ่าย) ก็เลยขอผ่าน (อีกแล้ว) ไปกินโคขุนโพนยางคำข้างๆ โรงแรมแฟร์เท็กซ์แทน
แสงไฟสะท้อนสระน้ำสวยๆ
ขึ้นห้องซักทีดีกว่า
เลขที่ออก... เป็นห้องดีลักซ์ อยู่ชั้นสาม (มีแค่สามชั้น)
เตียงนอนสภาพก่อนใช้งาน เตียงเสริมที่เห็นเป็นของพี่ม่อน ซึ่งทางโรงแรมจัดเตียงเสริมสำหรับเด็กให้ฟรี (หนึ่งคน) พร้อมอาหารเช้า
มองกลับไปอีกมุม
ห้องน้ำ...ช่องเปิดนี่เปิดปิดได้จากด้านนอกเท่านั้นและไม่มีล็อคนะคะ คนที่เป็นคู่รักคงไม่เป็นไร แต่ถ้าใครต้องเข้าพักกับญาติผู้ใหญ่ เพื่อนมือคัน หรือมีลูกวัยกำลังซนก็ตัวใครตัวมันละกันค่ะ
ข้างใน
ที่นี่ "ไม่มี" สายชำระให้นะคะ
ผ้าเช็ดตัวสีน้ำเงิน เป็นผ้าที่ให้ไว้ใช้ที่สระว่ายน้ำค่ะ ซึ่งเมื่อใช้งานแล้วก็สามารถนำเอาผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้วไปแลกผืนใหม่ได้
อ่างอาบน้ำแบบทั่วไป น้ำไหลแรงดี ปรับอุณหภูมิของน้ำได้ตามต้องการ
ทีวีในห้อง
ชากาแฟฟรี แต่ขนมไม่ฟรี
ชุดคลุมอาบน้ำ
อุปกรณ์อาบน้ำ ให้เยอะดี ชอบๆ
น้ำดื่มมีให้หลายขวด ไว้ใช้ดื่มและต้มกาแฟ
มีเค้กชิ้นเล็กๆ ให้ฟรีหนึ่งชิ้นในห้อง อร่อยดี พี่ม่อนชอบมาก
เปิดตู้เย็นดู
ขวดไวน์รูปบนนั่นซื้อมาเองจาก Silver Lake นะคะ คุณสามีบอกว่า ดีจังที่ซื้อมาขวดเดียว... เอ๊ะ..ยังไง
ของที่มีอยู่ในตู้เย็นทุกอย่าง "เสียตังค์ ราคาฝรั่งสะดุ้ง" จ้า
วิวหน้าห้อง เห็นสระว่ายน้ำตรงๆ โชคดีจัง เพราะห้องติดกันทั้งซ้ายขวาจะมีต้นไม้บังอยู่หน้าห้อง เห็นไม่ชัดแบบนี้ ห้องเราก็เหอะ เปลี่ยนพิกัดยืนหน่อยเดียวก็เริ่มมีกิ่งไม้ยื่นมาบังแล้ว
ตึกข้างๆ ห้องดีลักซ์เทอเรซกับดีลักซ์พูลจะอยู่ตึกที่เห็นนี่
ดีลักซ์พูลราคาเท่ากับพูลวิลล่าที่มีสระส่วนตัวบางแห่ง อยู่ชั้นล่างสุด มีอยู่สี่ห้อง (เอ๊ะ..หรือสามนะ..จำไม่ได้) มีประตูเปิดจากระเบียงลงสระได้ (ไม่ใช่สระส่วนตัว เป็นแค่ทางน้ำแยกออกมาจากสระใหญ่เข้าไปหน้าห้อง) ส่วนดีลักซ์เทอเรซก็จะอยู่ชั้นเดียวกัน แต่ระเบียงจะเปิดไม่ได้ และเป็นวิวสวนอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ โดยความรู้สึกส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบ เพราะไม่มีความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ รู้สึกเหมือนกับว่าใครก็สามารถเดินผ่านหน้าห้องเราและมองเข้าไปเห็นเราทำอะไรในห้องได้ตลอดเวลา ก็เลยคิดว่า อยู่แบบห้องดีลักซ์ (ที่ไม่ใช่เทอเรซหรือพูลเทอเรซซึ่งจะได้อยู่ชั้นบนๆ หน่อย) จะดีกว่า จ่ายน้อยกว่า และส่วนตัวมากกว่า
ตรงนี้จะตกแต่งเป็นคล้ายๆ หาดหิน ทำได้สวยดีค่ะ มองตรงไปจะเห็นห้องดีลักซ์พูล อยู่หลังสะพานข้ามสระ ชั้นล่างสุด
ออกไปกินโคขุนโพนยางคำกันดีกว่าค่ะ ร้านนี้แนะนำเป็นอย่างยิ่งยวด เราเป็นคนไม่กินเนื้อวัว ที่นี่ก็มีเมนูเนื้อหมูอร่อยๆ ให้ด้วยค่ะ ถ้าคนชอบกินเนื้อวัวยิ่งต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง
ที่จอดรถหายากหน่อยนะคะ ต้องจอดแถวในซอยข้างแฟร์เท็กซ์น่ะค่ะ
บรรยากาศการตกแต่ง
อันนี้จำชื่อไม่ได้ คล้ายจะเป็น..ก้อยหมูทอด..หรือเปล่าก็ไม่รู้ จำได้แต่ว่า อร่อยมากกกกกกกกกกกก
อร่อยจนถ่ายรูปไม่ทันเลย
กระทะร้อนอะไรซักอย่าง จำชื่อไม่ได้ แต่ว่าเนื้อหมูแหละ
ต้มแซบกระดูกอ่อน..อ๊ากก...อยากกินขึ้นมาอีกแล้ว
ส้มตำไข่เค็มก็อร่อย
ปลากะพงหรือปลาอะไรซักอย่างทอดน้ำปลา (จำอะไรไม่ค่อยได้เล้ย กินอย่างเดียว)
บริเวณโต๊ะ Outdoor ที่นี่มีหลังคาเลื่อนได้เวลาฝนตกด้วย
กินเสร็จก็กลับไปนอน ตอนแรกว่าจะนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ทำอารมณ์สวีทกับคุณสามีริมระเบียงหน้าห้องซักกะหน่อย แต่ปรากฎว่ายุงชุมและดุเหลือหลาย งานนี้เลยต้องพับโครงการสวีทริมระเบียงกันไป เดี๋ยวเลือดจะหมดตัวซะก่อน
ส่งท้ายด้วยรูปห้องนอนยามค่ำคืน คงจะหลับสบายกว่านี้ ถ้าไม่ต้องสะดุ้งตื่นด้วยเสียงตัวอะไรซักอย่าง (หรือหลายอย่าง) เดินบนเพดานห้องเสียงดังลั่นตลอดทั้งคืน ตื่นมาตาเป็นหมีแพนด้า ทั้งที่เตียงนอนออกจะนุ่มสบาย แต่กลับนอนไม่หลับเลย
สรุปความเห็นที่มีต่อที่นี่ (ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ) ได้ว่า..
ระดับของโรงแรม ในความรู้สึกของตัวเองให้เต็มที่สามดาวครึ่งค่ะ ไม่ถึงกับสี่ดาวอย่างที่โรงแรมวางตัวเองไว้ จากจำนวนห้อง ขนาดของพื้นที่ และการตกแต่งโดยรวม
สระว่ายน้ำ ใหญ่ดีค่ะ พูลบาร์ก็โอเค ชอบซุ้มที่นอนริมสระน้ำที่มีหลังคา ปูด้วยเบาะนุ่มๆ กว้างๆเต็มบริเวณ เหมาะที่จะเอาไว้นอนเอกเขนกในชุดว่ายน้ำอ่านหนังสือ พอเบื่อๆ ก็หย่อนตัวลงสระให้ตัวเปียกแล้วก็ขึ้นมานอนอ่านหนังสือสลับกันไปอย่างนี้ทั้งวันมากๆ
อาหารเช้า มีให้เลือกเยอะดีค่ะ ขนาดคนจุกจิกเรื่องมาก กินยากและเลือกกินอย่างเราก็ยังกินได้ตั้งหลายอย่างแน่ะ ปรบมือให้เลยค่ะ
การบริการ ทำได้ดีค่ะ
ราคาอาหารในโรงแรม ค่อนข้างสูง แต่โดยรอบโรงแรมก็มีร้านอาหารและมินิมาร์ทอยู่เยอะ สามารถเลือกซื้อเลือกกินได้ตามสบายค่ะ
บรรยากาศ เงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อนดีเยี่ยม แม้ไม่ติดทะเลก็ไม่ใช่ปัญหาหรือจุดด้อยแต่อย่างใดค่ะ
ข้อติ...
๑. เราเป็นคนค่อนข้างนอนระแวงและหูไวมาก เวลานอนถ้ามีเสียงอะไรดังนิดหน่อยก็จะตื่น แล้วห้องที่เรานอนเป็นห้องที่อยู่ชั้นบนสุดซึ่งไม่ทราบว่ามีตัวอะไรวิ่งอยู่บนเพดานห้องทั้งคืน (ไม่รู้ว่าหนูหรือนก แต่ถ้าเป็นนกทั่วๆ ไปมันน่าจะนอนตอนกลางคืนไม่ใช่เหรอ) มันทำให้เราผวาตื่นตลอดเวลา ทำให้เช้ามาเพลียมากเพราะอดนอน ตาเป็นหมีแพนด้าเลย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ทางโรงแรมปรับปรุงตรงนี้หน่อย เพราะว่าสัตว์ที่ว่าวิ่งดังมากจริงๆ และไม่ใช่แค่ตัวเดียว แต่เป็นฝูงเลยค่ะ วิ่งตั้งแต่หัวค่ำ นอนฟังเสียงมันทั้งคืน จนเช้ามันก็ยังไม่หยุดวิ่ง ไม่รู้ไปพักตรงกับวันที่พวกมันจัดวิ่งเปี้ยวงานกีฬาสีกันหรือเปล่า
๒. ยุงค่ะ เยอะมากจริงๆ ขนาดว่ายน้ำอยู่ก็ยังโดนกัดตั้งหลายครั้ง เข้าใจว่าต้นไม้เยอะ แต่ถ้าสามารถทำให้ปัญหานี้ลดลงได้บ้างก็จะเป็นการดีค่ะ